Endless Legend วิธีเล่น : Review เกมส์เเบื้องต้น
สืบเนื่องจากบทความก่อนหน้าที่เราได้พาทุกท่านไปรู้จักกับ Endless Legend กันบ้างแล้ว มาถึงคราวนี้ ข่าวเกม PC ก็ได้นำ Review ของเกมนี้เบื้องต้นมาให้ได้อ่านกันครับไม่ว่ายังไงก็เถอะเวลาที่เล่นเกมแนวสร้างเมืองหรือแนว 4X ทีไร ผมมักจะนำมาเปรียบเทียบกับเกมดังสุดๆของแนวนี้ตลอด นั่นคือ Civilization นั่นเอง ซึ่งระบบหลักๆของเกมโดยรวมแล้วสองเกมนี้ค่อนข้างคล้ายกันมาก ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเมือง เก็บทรัพยากร และคอยพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงการขยายดินแดนออกไปเรื่อยๆ ผู้เล่นต้องสร้างกองทัพ ต้องบุกยึด เพื่อขยายความยิ่งใหญ่ไปเรื่อยๆ หรือแม้กระทั่งมีการใช้การทูติเพื่อผูกสัมพันธุ์ หรือเพื่อการค้าขายจัดสรรทรัพยากรณ์ต่างๆ พร้อมกับความคลาสสิคของ Fog Of War ในระหว่างที่คุณเล่นไปถึงชัยชนะของเกมถึงแม้ว่าแต่ละข้อที่ลิสมาจะคล้ายกับ Civilization แค่ไหนก็เถอะ แต่เกมนี้จะเติมความนุ่มลึก เติมมิติใหม่ให้กับเกมแนว 4X ไปอีกขั้น ซึ่งผู้พัมนาทำออกมาได้แตกต่าง ลงตัว และทำได้ดีมากๆด้วย ซึ่งวันนี้ Endless Legend วิธีเล่น : Review ก็จะพาทุกท่านไปสัมผัสกับตัวเกมแบบภาพรวมคร่าวๆ แต่เนื้อหาครบถ้วนแน่นอนครับ
Endless Legend ไม่ได้เป็นเกมที่เล่นอยู่บนดาวโลก แต่ในทางกลับกัน เนื้อเรื่องทั้งหมดในเกมดำเนินอยู่บนโลกแห่งเทพนิยายบนดาว Auriga เป็นดาวที่เผลอมองแว้บแรกต้องนึกว่าตัวเองอยู่บนโลกแห่งแฟนตาซียังไงยังงั้น ดาวดวงนี้เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยมอนส์เตอร์มากมาย และเวทย์มนต์ทุกหนแห่ง จะพูดง่ายๆ ก็คือเกม Civilization ที่มีมอนส์เตอร์เท่ๆ กับเวทย์เจ๋งๆให้ใช้นั่นแหละ ถ้าฟังดูก็เข้าท่าดีล่ะนะ แต่เกมนี้จะเจ๋งพอรึปล่าว เพราะเราก็เห็นเกมแนวนี้มานักต่อนักแล้ว ซึ่งก็ตกมาตายกันเป็นแถว
แต่สิ่งที่แตกต่างจาก 4X Fantasy อื่นๆก็คือเกมนี้จะมีการผสมผสานระหว่งความเป็น Sci-fi กับความเป็น Fantasy อีกด้วยล่ะครับ แต่ก็มีบางเผ่าที่เน้นความแฟนตาซีออกจะสุดโต่งหน่อยๆ เช่นเผ่า Elf ส่วนเผ่าโปรดของผมนั่นก็คือ เผ่า Vaulters ซึ่งเป็นเผ่าที่สืบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์ในยานอวกาศที่ตกลงบนดาว Auriga เมื่อพันปีก่อน แล้วมีชีวิตรอดมาจนทุกวันนี้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าระบบเทคโนโลยีของเผ่านี้ก็สูงไม่เบาทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น หน้าไม้ของเผ่านี้จะใช้ชิ้นส่วนจากปืนใหญ่บนยานที่ตกมา ซึ่งชิ้นส่วนยายดึกดำบรรพ์นี้ก็ได้บรรจุพลังงานบางอย่างคล้ายๆเวทย์มนต์ไว้อีกด้วย นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นจุดประสงค์หลักของการเอาชนะ ซึ่งเนื้อเรื่องของแต่ละเผ่าก็คือการทำให้เผ่าตัวเองเป็นใหญ่ที่สุดในดินแดนแห่ง Auriga นั่นเองครับ
ซึ่งยังมีเผ่าที่หน้าสนใจอีกหลายเผ่ารอให้ผู้เล่นได้สัมผัส โดยเฉพาะเรื่องราวเบื้อหลังของแต่ละเผ่านี่ ยอมรับเลยครับว่าผู้พัฒนาจัดวางเนื้อเรื่องได้น่าติดตามสุดๆ แล้วอีกอย่างเวลาเราเปลี่ยนเผ่าเล่นในแต่ละเกม ส่งผลให้รูปแบบการเล่นในแต่ละตานั้น รู้สึกสดใหม่ แปลกใหม่ได้ตลอด เพราะว่าแต่ละเผ่าจะมีความจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เช่นเผ่า Roving Clan เป็นเผ่าร่อนเร่พเนจร จะมีความสามารถย้ายเมืองหลวงไปได้ทั่วแมพ หรือเผ่า Broken Lords เป็นเผ่าวิญญาณของนักรบสมัยก่อนที่ติดอยู่ระหว่างในโลกแห่งความเป็นและความตาย ซึ่งเผ่านี้จะต้องกินค่าพลังงาน (currency ในเกม) เพื่ออยู่รอดแทนที่จะกินอาหารเหมือนเผ่าอื่นๆ และอีกเผ่าหนึ่งคือเผ่า Cultists ซึ่งเป็นเผ่าของพวกหุ่นยนต์จะสามารถสร้างเมืองหลวงได้แค่ 1 อันแต่เมืองนั้นจะใหญ่แบบมโหราญไปเลย
เนื้อเรื่องความเป็น Fantasy ใน Endless Legend นั้นมีความลึกล้ำเกินกว่าที่จะเป็นแค่เนื้อเรื่องให้เสพเพียงอย่างเดียว เพราะว่ามันทำให้เกมมีความเป็น RPG นิดๆ ผู้เล่นสามารถใช้งาน Unit ระดับ Hero ได้อีกด้วย ซึ่ง Hero Unit แต่ละตัวจะมีความสามารถต่างกันไป บ้างถนัดในการปกครองเมือง หรือบางตัวถนัดนำทัพ ซึ่ง Hero Unit พวกนี้แหละเปรียบเสมือนพระเอกของเกม Endless Legend เลยก็ว่าได้ ซึ่งผู้เล่นสามารถพัฒนา Hero Unit ได้ผ่านการสำรวจแผนที่ หรือว่าระหว่างการต่อสู้ เมื่อเลเวลอัพแล้วเราสามารถเลือกจะอัพ Skill และ Perks ให้กับ Hero Unit ได้อีกด้วย หรือแม้กระทั่งใส่อาวุธเทพๆ เกราะเจ๋งๆให้ได้อีกต่างหาก (ซึ่งตัวอาวุธกับเกราะแต่ละชิ้นเองก็สามารถอัพเลเวลได้เช่นกัน) เจ๋งชะมัดเลยสิ
แต่ว่าฮีโร่ในเกมนี้ไม่ใช่แค่เสา Buffs เดินได้เท่านั้นนะครับ เพราะว่าฮีโร่บางตัวก็จำเป็นที่จะทำเควสเฉพาะด้วยเหมือนกัน เวลาเราเล่น่ไปถึงจุดๆหนึ่ง (หรือบางทีก็ตอนสำรวจแผนที่อยู่) แล้วเรามี Hero Unit อยู่กองทัพ บางทีก็จะมีเควสย่อยเด้งขึ้นมาให้ทำ ซึ่งนั่นช่วยให้เกมน่าตื่นเต้นขึ้นเยอะในขณะที่อยู่ในช่วงอัพเกรดบ้านเมือง ซึ่งในเกมอื่นอาจจะเงียบเป็นพิเศษ ซึ่งแต่ละเควสที่ออกมาก็จะเป็นเควสประมาณให้เปิดแผนที่ ไปสำรวจสถานที่เก่าแก่ ล่ามอนส์เตอร์ หรือว่าช่วยชาวเมืองทำเรื่องต่างๆ
Endless Legend เป็นเกม 4X เกมหนึ่งที่ภาพค่อนข้างสวยทีเดียว เห็นครั้งแรกไม่คิดว่าเกมนี้จะออกมาจาก Studio เกมเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนู และ 2D Art สุดสวย ทำออกมาได้เนี้ยบมาก ไม่แพ้ Studio ใหญ่ๆอย่าง Firaxis หรือ Creative Assembly เลย โดยปกติแล้วเกมแนว Strategy ของนักพัฒนา Indy มักจะไม่ค่อยใส่ใจตรงส่วนของเมนูเท่าไหร่นัก ซึ่งทำให้ลดอารมณ์การเล่นของผมได้พอสมควร แต่สำหรับเกมนี้ ผมให้ผ่านเลยล่ะครับ
Endless Legend ทำส่วน Menu และภาพในเกมออกมาได้ดีมาก ทั้งส่วนของ UI ที่ทั้งดูสะอาดและสะดุดตาในเวลาเดียวกัน ซึ่งแบ่งออกเป็นสัดส่วนที่มือเครื่องมือที่จำเป็นอย่างครบถ้วน และระบบ Notification สำหรับแจ้งเตือน จะเคยเด้งเตือนเมื่อมีเหตุการสำคัญเกิดขึ้น เป็นการฉลาดมากที่ผู้พัฒนาได้ใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เอาไว้ในตัวเกม และการเอาใจใส่ User Experience นั้นก็ชวนให้ผู้เล่นใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ กับเกมนี้ได้อย่างดีทีเดียว ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณอยากจะออกจากเมนูซื้อของ กลับไปหน้า World Map คุณไม่จำเป็นต้องมองหาปุ่มกากบาทอีกต่อไป คุณแค่คลิกขวาตรงที่ว่าง แล้วระบบจะพาคุณซูมเอาท์ออกไปย่างสวยงามเหมือนรูปด้านล่าง
เรามาดูความเจ๋งของระบบ World Map ใน Endless Legend กันดีกว่า เพราะระบบแมพของเกมนี้ยืมมาจากฉากเปิดตัวของซีรีส์ Game Of Throne ไงล่ะครับ หลายๆคนคงจะคุ้นกันดี เพราะเวลาซูมออกก้อนตารางหกเหลีย่มจะหลอมรวมเป็นแมพใหญ่แมพเดียว โดยใช้ภาพแนวการ์ตูนวาดมือมาทำให้ World Map ดูง่าย และเตะตาอย่างมาก และผมก็ชอบเวลาที่มันค่อยๆเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบๆที่ดูสมจริง (ตัว Unit, สิ่งปลูกสร้าง, พื้นผิวต่างๆ) ไปเป็น รูปวาดบนกระดาษสีน้ำตาล ที่ให้ข้อมูลทางด้านการวางแผน ไม่ว่าจะเป็นระยะพื้นที่ของเมืองแต่ละเมือง หรือ Resources ต่างๆ
บน World Map นั้นเราสามารถวางแผนการรบในขณะที่จัดสรรค์ทรัพยากรของเมืองไปพร้อมๆกันได้ หนึ่งในเหตุผลหลักที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าในฉากการต่อสู้ จะค่อนข้างแหวกแนวจากเกมรุ่นพี่อย่าง Civilization มาพอสมควร เพราะในการรบแต่ละครั้งคุณไม่สามารถแค่อัดสร้างยูนิตชนิดเดิมๆรัวๆ ออกมาบนแมพ แล้วค่อยไปไล่ยำชาวบ้าน แต่ใน Endless Legend คุณจะต้องมีการวางแผนจัดยูนิตแต่ละชนิดลงในแต่ละกองทัพ ซึ่งจำนวนยูนิตของแต่ละทัพก็จะใส่ได้จำนวนจำกัดด้วย ทำให้การวางแผนแบบ Tactic มีผลอย่างมากสำหรับเกมนี้
โดยปกติแล้วผู้เล่นจะเห็นแค่ unit ตัวเดียวบนแผนที่ ซึ่ง Unit ตัวนั้นเปรียบเสมือน unit นำทัพของเรา แต่พอเวลามีศัตรูมาอยู่ใกล้ๆปุ๊ป จะมีเส้นแบ่งออกมรอบๆกองทัพของทั้งเราและศัตรู แล้วหลังจากนั้น units แต่ละตัวในกองทัพของเราก็จะเดินออกมายืนบนบล็อคหกเหลี่ยมแต่ละบล็อคบนแผนที่ ของใครของมัน ถึงจุดนี้ปุ๊ป คุณก็เข้าสู่โหมดต่อสู้ตรงนั้นเลย คล้ายๆกับเกม Final Fantasy Tactic ท่ามกลางเมืองหรือทรัพยากรรอบๆ แบบ real time กันไปเลยครับ ผมชอบการเปลี่ยนจากการจัดการวางแผน เข้าโหมดต่อสู้แบบไร้รอยต่อ และทำได้ลื่นไหลมากๆ และยิ่งการที่ตัวเกมใส่ระบบการต่อสู้แบบ turn base ยิ่งช่วยเพิ่มความนุ่มลึกให้กับตัวเกมได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว หายากมากนะครับ ที่จะมีเกมแนว hardcore military simulator ใช้ระบบการต่อสู้แบบนี้ ซึ่งจะส่งผลให้การวางแผนจัดตำแหน่งทัพ สำคัญพอๆกับการเลือก unit เข้าทัพเลยทีเดียว
ด้านล่างนี้เป็นข้อที่ผมชอบเป็นพิเศษ
ระบบสภาพอากาศ – ภายในเกมจะมีการเปลี่ยนฤดูกาลเปลี่ยนสลับไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่นเทิร์นนี้คุณอยู่ภายใต้ ฤดูร้อน แสงอาทิตส่องลงมาทำให้พืชผลต่างๆของคุณออกดอกให้เก็บเกี่ยวกันอย่างเมามัน แต่พอสักพักถึงคราวฤดูหนาวเข้ามาเยือน คราวนี้แหละครับ ช่วงเวลายากลำบากได้เข้ามาแล้ว จากอาหารต่างๆที่เคยได้อย่างดี ก็กลายเป็นเก็บเกี่ยวลำบาก ออกดอกออกผลน้อยลง และ unit ต่างๆจะเดินทางข้ามแมพช่วงนี้ได้ช้าลงด้วย ส่งผลกระทบต่อเกมเพลย์มหาศาลเลยล่ะครับระบบนี้ ในส่วนของระบบต่อสู้ ก็อาจจะมีผลบ้างในการเคลื่อนที่ แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำให้เล่นลำบากขึ้นแต่อย่างใด
การคุมเขตแดน
แทนที่จะไปลอกระบบเขตแดนของแต่ละเมืองจากเกม Civilization หรือเอามาโมมาปรับเป็นของตัวเอง Endless Legend มองว่าบนโลกของ Auriga มีประวัติศาสตร์เรื่องราวมาก่อนอยู่แล้ว และยังมีเผ่าเล็กๆน้อยๆที่ดำรงอยู่ในแต่ละสถานที่ ทำให้ map ในเกมนี้แบ่งเป็นเขตๆไป ซึ่งแต่ละเขตก็จะประกอบด้วยหมู่บ้านเล็กๆหลายๆหมู่บ้านอยู่รวมกัน โดยแต่ละเขตจะสามารถ support ให้ได้แค่เมืองเดียวเท่านั้น นั่นหมายความว่าถ้าใครไปสร้างเมืองอยู่ในเขตนั้นๆก่อน ก็จะได้คุมเขตนั้นทั้งโซนเลยล่ะครับ แต่ฟังดูแล้วก็อาจจะแอบโหดๆหน่อยนะครับ เพราะว่าหมู่บ้านเล็กๆในนั้นก็จะเปรียบเหมือนตัวประกันของเราไปโดยปริยายหากเราได้สร้างเมืองไว้แล้ว พวก unit ที่อยู่ในแมพก่อนแล้วสามารถทำให้ตกเป็นพันธมิตรกับเราได้ง่ายๆโดยการทูติ หรือว่าจะกำราบให้หมดโดยใช้กำลังทหารเลยก็ย่อมได้ นอกจากนั้น เราจำเป็นจะต้องเคลียร์มอนส์เตอร์ที่อยู่ประจำที่ต่างๆบนแมพเพื่อเคลียร์เส้นทางอีกด้วย เพราะเมื่อมอนส์เตอร์เจอ unit ของเราใกล้ๆ จะทำการเข้าโจมตีทันที และผมก็ชอบไอเดียนี้มากๆด้วยครับเพราะสถานที่รกร้างต่างๆ ก็น่าจะมีเจ้าถิ่นเก่าอยู่แล้วทำให้ได้อารมณ์ในการสำรวจแผนที และสามารถลองฟัดกับพวกมอนส์เตอร์ก่อนไปเจอพวกศัตรูจริงๆของเราได้ดีทีเดียว
ระบบ research technology แบบ auto
ทุกๆท่านคงพอจะนึกภาพออกนะครับเวลาเราสั่งผลิต unit หรือซื้ออะไรก็ตามแต่หลายๆอันเยอะๆ จะมีการจัดคิวให้อัตโนมัติ เมื่ออันแรกเสร็จก็จะทำอันที่สองต่อไปเรื่อยๆจนครบคิว สำหรับ Endless Legend แล้วเรายังสามารถทำการ queue up ของส่วนการพัฒนา technology ซึ่งสะดวกมากๆ คุณแค่เข้าไปแล้วเซ็ทแค่ต้นเกมครั้งเดียว ว่าต้องการจะ research อะไรยังไงบ้าง จากนั้นก็เอาเวลาไปจัดการส่วนอื่น สะดวกสุดๆไปเลยครับ
สรุปสั้นๆเลยเกมนี้ถือว่าใจกล้ามากที่นำสไตล์ส่วนตัวใส่เข้าไปในสูตรสำเร็จของเกม Civilization ได้อย่างพอดีเป๊ะ อีกทั้งระบบ tactic combat ตอนต่อสู้นี่ทำออกมาได้ดีเกินคาดทีเดียวล่ะ ข้อเสียก็คงจะมีแค่ระบบ AI ที่อาจจะกากไปหน่อย นี่ขนาดปรับระดับยากสุดแล้วนะ ยังกากอยู่เลย ถือว่าเป็นเกมที่ต้องสอยมาเล่นให้ได้เลยล่ะครับ
Source: Kotaku
Chillyprig
Credit : Endless Legend วิธีเล่น : Review เกมส์เเบื้องต้น